สวัสดีค่ะทุกคน มาแล้ว มาพร้อมเรื่องสนุกๆ ที่จะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยว่า บทความนี้สร้างขึ้นจากความชอบ ความสนใจของผู้เล่า
เป็นการรวบรวมข้อมูล มาสรุป และแบ่งปัน สาระไม่ค่อยจะมี
รอบนี้ขอโดดกำแพงจีน มาดูพี่ไทยกันบ้าง เรื่องผีๆไว้ใจช่อง 8 เรื่องนี้สามารถรับชมได้ทาง true ID
ได้เห็นชื่อเรื่องแล้วรู้สึกน่าสนใจมาก ปกติผู้เล่าก็ชอบอะไรที่เกี่ยวกับตำนานอยู่แล้ว
แต่ก่อนที่จะไปทราบที่มาเบื้องลึกเบื้องหลัง เรามาเกริ่นละครก่อนดีกว่า สักนิดนึง
ปกติละครไทย เรามักจะคุ้นกับผีปอบ ผีกระสือ ถ้าเป็นหนังก็นางนาก พี่มาก หรือไม่ก็วิญญาณที่เข้าสิงในร่างต่าง ๆ เพื่อตามล้างแค้น ใช่ไหมเอ่ย
ซึ่งแน่นอน เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นวิญญาณที่สิงอยู่ในหัวโขนเช่นกัน แต่มันน่าสนใจตรงที่มีการแทรกการสืบทอดวัฒนธรรมเข้ามาด้วยนี่แหละ
ประเดิมด้วยนางเอกของเรื่อง หนูดี อรปรียา เนซ่า มามูดี้ สาวลูกครึ่งคนเก่ง รอบนี้นางถอดมงกุฎมาลงละคร ไหนแฟน ๆ ของเธอขอเสียงรีวิวหน่อย เป็นยังไงกันบ้างกับบทบาทนักแสดงครั้งนี้
ส่วนพระเอกของเรื่องก็คือ ไกด์ กันตพล ชมพูพันธ์
เปิดเรื่องมาพระนางก็เจอกันในบทบาท ช่วยจับโจร สายตง สายตา ยิ้มหวานให้กัน ผู้เล่านึกว่าโสดทั้งคู่ แต่ดันมารู้ต่อมา… อ้าว! ทั้งคู่มีคนรักอยู่แล้วค่ะ
นางเอกกับแฟนก็ดูรักกันดี ก็ต้องมาคอยลุ้นกันต่อว่าจุดพลิกของเรื่องจะไปปิ๊ง ๆ รักกับพระเอกยังไง
เรื่องนี้ยังคงความเป็นพล็อตยอดนิยมของละครไทย ดิฉันห่างหายไปนาน กลับมาดูอีกทีก็ยังเจอแจ็กพอตพล็อตเดิมที่ไม่เคยหายไป
นั่นคือ พ่อแม่ไม่ชอบลูกสะใภ้ เพราะฐานะต่างกัน แต่ก็ว่าไม่ได้จริง ๆ เพราะทั้งละครจีนและเกาหลีก็ยังคงฮิตใช้พล็อตนี้อยู่เหมือนกัน
ที่นี่มาถึง ผีตาโขน เพื่อความฟินในการดู ดิฉันไม่พลาดที่จะไปหาเรื่องราวมาเพิ่มเพื่อมาเล่าให้ฟัง
ฟังคลิปที่ >>
ถ้าพูดถึงงานประเพณีพื้นบ้านที่โดดเด่นของไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน “ผีตาโขน” คงเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นหู เพราะนี่ไม่ใช่เพียงแค่การละเล่นสนุกสนาน แต่ยังเป็นพิธีกรรมที่มีรากเหง้าจากพุทธศาสนา ความเชื่อพื้นบ้าน และวิถีชีวิตของชาวด่านซ้าย จังหวัดเลย
จุดเริ่มต้นและตำนานที่มา
คำว่า “ผีตาโขน” มีการสันนิษฐานมาจาก “ผีตาขน” หรือ “ผีตามคน” คือตามมาส่ง 2 พระองค์กลับเมือง หลังจากเสด็จออกจากป่า ในตำนานเล่าว่า เหล่าสัตว์ป่าและภูติผีทั้งหลายต่างก็ร่วมออกมาส่งเสด็จด้วยความอาลัย จนเกิดเป็นเรื่องเล่าที่สืบต่อมา
อีกหนึ่งตำนานที่ชาวบ้านเคารพคือ “ปู่เยอ–ย่าเยอ” ผู้เสียสละตัดเครือเขากาดยักษ์ที่ปิดกั้นแสงแดดให้แก่บ้านเมือง ใช้เวลาถึง 3 เดือน 3 วันกว่าจะขาด และถูกจัดให้เป็นบรรพชนศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพสักการะ
งานบุญหลวงและพิธีสำคัญ
เทศกาลผีตาโขนเป็นส่วนหนึ่งของ “งานบุญหลวง” ซึ่งผนวกเอา บุญพระเวสสันดร (บุญผะเหวด) และ บุญบั้งไฟ เข้าด้วยกัน พิธีกรรมสำคัญมี 3 วัน ได้แก่
วันแรก – วันโฮม (พิธีเบิกพระอุปคุต)
- วันที่สอง – ขบวนแห่พระเวสสันดร & ผีตาโขน
- วันที่สาม – ทำบุญวันสุดท้าย & ฟังธรรม จะมีการให้ชาวบ้านฟังเทศน์
หน้ากากและเครื่องแต่งกาย
ลักษณะเด่นของผีตาโขนคือ “หน้ากาก” ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น หวดนึ่งข้าวเหนียว กาบมะพร้าว และเศษผ้า ก่อนจะนำมาวาดลวดลายสีสันจัดจ้านตามจินตนาการของผู้ทำ มีทั้งภาพน่ากลัวและสวยงาม ถือเป็นงานหัตถกรรมที่สะท้อนภูมิปัญญาชาวบ้านได้อย่างชัดเจน
ผีตาโขนได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
-
ผีตาโขนใหญ่ : หุ่นไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ใช้เพียงปีละ 2 ตัว (ชาย–หญิง)
-
ผีตาโขนเล็ก : แต่งเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
แม้ผีตาโขนจะเป็นงานรื่นเริง แต่ก็ซ่อนความหมายเชิงสัญลักษณ์เอาไว้มากมาย เช่น การขอฝนในฤดูเพาะปลูก การละเล่นที่ทำหน้าที่ขับไล่สิ่งชั่วร้าย และการระลึกถึงบรรพชน
ปัจจุบัน ผีตาโขนกลายเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
“ผีตาโขน” ไม่ได้เป็นเพียงการละเล่นพื้นบ้าน แต่คือมรดกภูมิปัญญาที่ผสมผสานความเชื่อทางศาสนาและวิถีชีวิตของคนอีสานไว้อย่างกลมกลืน
ทุกปีที่งานบุญหลวงจัดขึ้น จึงไม่เพียงแต่เป็นเวทีแห่งสีสันและความสนุก แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการอนุรักษ์ ร่วมสืบต่อความเชื่อและวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป
https://www.facebook.com/share/p/1B55Zs8HKw/
https://www.thaich8.com/news_detail/136625
https://slc.mbu.ac.th/phitakhon/






0 ความคิดเห็น